บีโอไอจัดกิจกรรมการลงทุนไทยในคาซัคสถาน ใช้เป็นฐานเจาะตลาดตลาดสหภาพยูเรเชีย
05 เมษายน 2562
บีโอไอจัดกิจกรรมส่งเสริมการลงทุนไทยในคาซัคสถาน ใช้เป็นฐานเจาะตลาดสหภาพเศรษฐกิจยูเรเชีย
บีโอไอติดปีกนักลงทุนไทย สร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจร่วมคาซัคสถาน มองเป็นฐาน ขยายลงทุนโยงสู่5 ประเทศในเขตยูเรเซีย จัดกิจกรรมส่งเสริมการลงทุนและการจับคู่ธุรกิจ ต่อเนื่อง ระยะแรกเน้นอุตสาหกรรมยา ซอฟต์แวร์น้ำมันหล่อลื่น และเกษตรแปรรูป นายชูวงศ์ตั้งคุณสมบัติผู้อำนวยการกองส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศ ส านักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้สำนักงานร่วมกับ นางสาวราอูชัน เยสบูลาโตวา เอกอัครราชทูต สาธารณรัฐคาซัคสถานประจำประเทศไทย ได้จัด กิจกรรมส่งเสริมการลงทุนให้แก่คณะข้าราชการระดับสูงและนักธุรกิจชั้นนำจากประเทศ คาซัคสถานกว่า 20 คน ซึ่งมีนายบาตาลอฟ อามันดึค กาบบาโซวิช ผู้ว่าการแห่งรัฐอัลมาตีเป็น ผู้นำคณะเยือนประเทศไทยด้วยตนเอง ซึ่งบีโอไอได้เชิญบริษัทไทยในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ และสนใจขยายการลงทุนในต่างประเทศ เช่น อุตสาหกรรมยา ซอฟต์แวร์ น้ำมันหล่อลื่น เกษตรแปรรูป จำนวน 10 บริษัทมาร่วมกิจกรรมจับคู่ธุรกิจด้วย โดยได้รับความสนใจจากบริษัท ขนาดใหญ่ของไทยมาเข้าร่วม เช่น บริษัทไทยออยล์บริษัทเบทาโกร บริษัทอินเตอร์ไทยฟาร์ มาซูติเคิ้ล เป็นต้น “การจัดกิจกรรมส่งเสริมการลงทุนกับคาซัคสถานในครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งในโครงการ ร่วมมือระหว่างบีโอไอกับสถานเอกอัครราชทูตคาซัคสถาน ซึ่งดำเนินต่อเนื่องมา 5 ปีตั้งแต่ปี 2557 โดยการนำคณะนักธุรกิจไทยเข้าไปสำรวจและศึกษาลู่ทางด้านธุรกิจและลงทุนในประเทศ คาซัคสถาน ที่ผ่านมาได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการลงทุนแล้ว 3 ครั้ง และนำคณะนักวิจัยไปเก็บ ข้อมูลเชิงลึก 1 ครั้ง เพื่อน าข้อมูลมาวิเคราะห์ทำเลที่ตั้งและกลุ่มอุตสาหกรรมไทยที่มีโอกาสไป ลงทุน จากนั้นจึงได้จัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ เพื่อเปิดโอกาสให้นักธุรกิจไทยได้สร้างเครือข่ายกับ พันธมิตรทางธุรกิจที่มีศักยภาพ เพื่อให้มีการวางแผนธุรกิจที่แข็งแกร่งและเกิดการลงทุนอย่าง เป็นรูปธรรม” นายชูวงศ์กล่าว 2 ประเทศคาซัคสถานอยู่ในสหภาพเศรษฐกิจยูเรเชีย (Custom Union of Eurasia) ซึ่งมี การเคลื่อนย้ายแรงงานระหว่างกันอย่างเสรีและมีตลาดที่เปิดกว้างระหว่างประเทศสมาชิกที่ ประกอบด้วย อาร์เมเนีย เบลารุส คาซัคสถาน คีร์กิซสถาน และรัสเซีย ซึ่งมีผู้บริโภครวมกันถึง 180 ล้านคน ผลิตภัณฑ์มวลในประเทศหรือจีดีพีรวมกันถึง 2.8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ประเทศคาซัคสถานนอกจากจะมีศักยภาพด้านพลังงาน ทั้งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ยัง ถือเป็นประเทศที่อยู่ในแนวเส้นทาง One Belt One Road ของจีนที่สามารถเชื่อมต่อกับ ประเทศในยูเรเซียและรัสเซีย นับเป็นประเทศที่มีที่ตั้งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญประเทศหนึ่ง จึง เป็นประเทศที่มีศักยภาพด้านการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนไทย โดยเฉพาะใน อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปที่คาซัคสถานยังมีการผลิตไม่เพียงพอ ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ “สำหรับเมืองอัลมาตีถือเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของคาซัคสถาน การที่ผู้ว่าการแห่ง รัฐอัลมาตีเป็นหัวหน้าคณะเดินทาง สื่อให้เห็นได้ชัดเจนว่ารัฐบาลคาซัคสถานได้ยกระดับให้ ประเทศไทย เป็นคู่พันธมิตรด้านการลงทุนที่มีความสำคัญในภูมิภาคนี้และที่สำคัญคือ บีโอไอ ได้แสดงความตั้งใจที่จะสนับสนุนให้เกิดการเชื่อมโยงด้านการลงทุนระหว่างกันอย่างเป็น รูปธรรม และสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจของทั้งสองฝ่ายที่จะร่วมงานในรูปแบบต่างๆ ต่อไปใน อนาคต” นายชูวงศ์กล่าวเสริม ผู้สนใจกิจกรรมของกองส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศ สามารถติดตามได้ใน เว็บไซต์ https://toi.boi.go.th ****************************************
บีโอไอติดปีกนักลงทุนไทย สร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจร่วมคาซัคสถาน มองเป็นฐาน ขยายลงทุนโยงสู่5 ประเทศในเขตยูเรเซีย จัดกิจกรรมส่งเสริมการลงทุนและการจับคู่ธุรกิจ ต่อเนื่อง ระยะแรกเน้นอุตสาหกรรมยา ซอฟต์แวร์น้ำมันหล่อลื่น และเกษตรแปรรูป นายชูวงศ์ตั้งคุณสมบัติผู้อำนวยการกองส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศ ส านักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้สำนักงานร่วมกับ นางสาวราอูชัน เยสบูลาโตวา เอกอัครราชทูต สาธารณรัฐคาซัคสถานประจำประเทศไทย ได้จัด กิจกรรมส่งเสริมการลงทุนให้แก่คณะข้าราชการระดับสูงและนักธุรกิจชั้นนำจากประเทศ คาซัคสถานกว่า 20 คน ซึ่งมีนายบาตาลอฟ อามันดึค กาบบาโซวิช ผู้ว่าการแห่งรัฐอัลมาตีเป็น ผู้นำคณะเยือนประเทศไทยด้วยตนเอง ซึ่งบีโอไอได้เชิญบริษัทไทยในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ และสนใจขยายการลงทุนในต่างประเทศ เช่น อุตสาหกรรมยา ซอฟต์แวร์ น้ำมันหล่อลื่น เกษตรแปรรูป จำนวน 10 บริษัทมาร่วมกิจกรรมจับคู่ธุรกิจด้วย โดยได้รับความสนใจจากบริษัท ขนาดใหญ่ของไทยมาเข้าร่วม เช่น บริษัทไทยออยล์บริษัทเบทาโกร บริษัทอินเตอร์ไทยฟาร์ มาซูติเคิ้ล เป็นต้น “การจัดกิจกรรมส่งเสริมการลงทุนกับคาซัคสถานในครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งในโครงการ ร่วมมือระหว่างบีโอไอกับสถานเอกอัครราชทูตคาซัคสถาน ซึ่งดำเนินต่อเนื่องมา 5 ปีตั้งแต่ปี 2557 โดยการนำคณะนักธุรกิจไทยเข้าไปสำรวจและศึกษาลู่ทางด้านธุรกิจและลงทุนในประเทศ คาซัคสถาน ที่ผ่านมาได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการลงทุนแล้ว 3 ครั้ง และนำคณะนักวิจัยไปเก็บ ข้อมูลเชิงลึก 1 ครั้ง เพื่อน าข้อมูลมาวิเคราะห์ทำเลที่ตั้งและกลุ่มอุตสาหกรรมไทยที่มีโอกาสไป ลงทุน จากนั้นจึงได้จัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ เพื่อเปิดโอกาสให้นักธุรกิจไทยได้สร้างเครือข่ายกับ พันธมิตรทางธุรกิจที่มีศักยภาพ เพื่อให้มีการวางแผนธุรกิจที่แข็งแกร่งและเกิดการลงทุนอย่าง เป็นรูปธรรม” นายชูวงศ์กล่าว 2 ประเทศคาซัคสถานอยู่ในสหภาพเศรษฐกิจยูเรเชีย (Custom Union of Eurasia) ซึ่งมี การเคลื่อนย้ายแรงงานระหว่างกันอย่างเสรีและมีตลาดที่เปิดกว้างระหว่างประเทศสมาชิกที่ ประกอบด้วย อาร์เมเนีย เบลารุส คาซัคสถาน คีร์กิซสถาน และรัสเซีย ซึ่งมีผู้บริโภครวมกันถึง 180 ล้านคน ผลิตภัณฑ์มวลในประเทศหรือจีดีพีรวมกันถึง 2.8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ประเทศคาซัคสถานนอกจากจะมีศักยภาพด้านพลังงาน ทั้งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ยัง ถือเป็นประเทศที่อยู่ในแนวเส้นทาง One Belt One Road ของจีนที่สามารถเชื่อมต่อกับ ประเทศในยูเรเซียและรัสเซีย นับเป็นประเทศที่มีที่ตั้งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญประเทศหนึ่ง จึง เป็นประเทศที่มีศักยภาพด้านการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนไทย โดยเฉพาะใน อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปที่คาซัคสถานยังมีการผลิตไม่เพียงพอ ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ “สำหรับเมืองอัลมาตีถือเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของคาซัคสถาน การที่ผู้ว่าการแห่ง รัฐอัลมาตีเป็นหัวหน้าคณะเดินทาง สื่อให้เห็นได้ชัดเจนว่ารัฐบาลคาซัคสถานได้ยกระดับให้ ประเทศไทย เป็นคู่พันธมิตรด้านการลงทุนที่มีความสำคัญในภูมิภาคนี้และที่สำคัญคือ บีโอไอ ได้แสดงความตั้งใจที่จะสนับสนุนให้เกิดการเชื่อมโยงด้านการลงทุนระหว่างกันอย่างเป็น รูปธรรม และสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจของทั้งสองฝ่ายที่จะร่วมงานในรูปแบบต่างๆ ต่อไปใน อนาคต” นายชูวงศ์กล่าวเสริม ผู้สนใจกิจกรรมของกองส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศ สามารถติดตามได้ใน เว็บไซต์ https://toi.boi.go.th ****************************************