ผทภ.7 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ศูนย์และคณะผู้บริหาร สสว. 5 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ลงพื้นที่ร่วมกัน ติดตามการดำเนินการของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สร้างการเชื่อมโยงและบูรณาการ การทำงานร่วมกันของภาคีเครือข่าย ระหว่างวันที่ 15 - 16 สิงหาคม 2568
05 กันยายน 2568
ด้วย ผทภ.7 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ศูนย์และคณะผู้บริหาร สสว. 5 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ลงพื้นที่ร่วมกัน ติดตามการดำเนินการของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สร้างการเชื่อมโยงและบูรณาการ การทำงานร่วมกันของภาคีเครือข่าย ระหว่างวันที่ 15 - 16 สิงหาคม 2568 ใน 2 พื้นที่ ได้เแก่
1. โรงพยาบาลพรหมพิราม อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งมีส่วนที่เป็นโรงพยาบาล แพทย์แผนไทย ที่มีการนำผลิตภัณฑ์สมุนไพรมาใช้ในการรักษาเป็นหลัก โดยได้มีการเชื่อมโยงสมุนไพรจากหลายแหล่ง ทั้งจากโรงงานอุตสาหกรรม และวิสาหกิจชุมชน และจากสถิติการใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรในการรักษาของโรงพยาบาลมีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
2. วิสาหกิจชุมชนปลูกและแปรรูปสมุนไพรทับยายเชียง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นวิสาหกิจชุมชนที่แปรรูปสมุนไพรแบบออรฺแกนิค โดยการรวบรวมสมุนไพรท้องถิ่นจากสมาชิกในกลุ่มกว่า 100 เครือข่าย นำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรแบบสำเร็จรุปและเป็นวัตถุดิบกึ่งสำเร็จรูป จำหน่ายตรงให้กับโรงพยาบาลที่มีการรักษาแบบแพทย์แผนไทยในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก และส่งวัตถุดิบสมุนไพรกึ่งสำเร็จรูปจำหน่ายที่ตลาดไท ซึ่งกิจการของกลุ่มประสบความสำเร็จได้จากการบริหารจัดการที่ดีของกลุ่มและการส่งเสริมจากหน่วยงานภาครัฐ อาทิ สถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงครามกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสสว. จึงทำให้กลุ่มมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
จากการลงพื้นที่ทั้ง 2 แห่ง ทำให้เห็นถึงโอกาสการเติบโตของกลุ่มการใช้สมุนไพรในการรักษาโรคซึ่งเป็นหนึ่งใน soft power ของไทย ด้วยข้อมูลจาก Forbes Thailand ปัจจุบันตลาดสมุนไพรโลกมีมูลค่าสูงถึง 6.02 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งไทยมีการส่งออกสมุนไพรอยู่ในอันดับ 1 ของอาเซียนแต่ยังไม่ติด 1 ใน 10 ของตลาดโลก เนื่องจากข้อจำกัดด้านมาตรฐานการผลิต แบรนด์ดิ้งและบรรจุภัณฑ์ และด้วยทิศทางการโตอย่างต่อเนื่องในตลาดสมุนไพร คาดว่าภายในปี 2570 ตลาดสมุนไพรจะมูลค่าสูงถึง 100,000 ล้านบาท มูลค่าส่งออกช่วงปี 2560 - 2565 กว่า 12,211 ล้านบาท โดยตลาดส่งออกสำคัญได้แก่ จีน 34.3 % ญี่ปุ่น 26.6 เวียดนาม 12.4% บังกลาเทศ 5.5% เกาหลีใต้ 4.2% และการคาดการณ์ตลาดสมุนไพรโลกในปี 2573 จะมูลค่าทะลุ 2.7 ล้านล้านบาท ทำให้ตลาดสมุนไพรไทยสามารถโตได้อีกมากมายหากสามารถสนับสนุนด้านมาตรฐานการผลิตแก่วิสาหกิจชุมชน หรือกลุ่มอาชีพ ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากได้
1. โรงพยาบาลพรหมพิราม อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งมีส่วนที่เป็นโรงพยาบาล แพทย์แผนไทย ที่มีการนำผลิตภัณฑ์สมุนไพรมาใช้ในการรักษาเป็นหลัก โดยได้มีการเชื่อมโยงสมุนไพรจากหลายแหล่ง ทั้งจากโรงงานอุตสาหกรรม และวิสาหกิจชุมชน และจากสถิติการใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรในการรักษาของโรงพยาบาลมีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
2. วิสาหกิจชุมชนปลูกและแปรรูปสมุนไพรทับยายเชียง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นวิสาหกิจชุมชนที่แปรรูปสมุนไพรแบบออรฺแกนิค โดยการรวบรวมสมุนไพรท้องถิ่นจากสมาชิกในกลุ่มกว่า 100 เครือข่าย นำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรแบบสำเร็จรุปและเป็นวัตถุดิบกึ่งสำเร็จรูป จำหน่ายตรงให้กับโรงพยาบาลที่มีการรักษาแบบแพทย์แผนไทยในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก และส่งวัตถุดิบสมุนไพรกึ่งสำเร็จรูปจำหน่ายที่ตลาดไท ซึ่งกิจการของกลุ่มประสบความสำเร็จได้จากการบริหารจัดการที่ดีของกลุ่มและการส่งเสริมจากหน่วยงานภาครัฐ อาทิ สถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงครามกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสสว. จึงทำให้กลุ่มมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
จากการลงพื้นที่ทั้ง 2 แห่ง ทำให้เห็นถึงโอกาสการเติบโตของกลุ่มการใช้สมุนไพรในการรักษาโรคซึ่งเป็นหนึ่งใน soft power ของไทย ด้วยข้อมูลจาก Forbes Thailand ปัจจุบันตลาดสมุนไพรโลกมีมูลค่าสูงถึง 6.02 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งไทยมีการส่งออกสมุนไพรอยู่ในอันดับ 1 ของอาเซียนแต่ยังไม่ติด 1 ใน 10 ของตลาดโลก เนื่องจากข้อจำกัดด้านมาตรฐานการผลิต แบรนด์ดิ้งและบรรจุภัณฑ์ และด้วยทิศทางการโตอย่างต่อเนื่องในตลาดสมุนไพร คาดว่าภายในปี 2570 ตลาดสมุนไพรจะมูลค่าสูงถึง 100,000 ล้านบาท มูลค่าส่งออกช่วงปี 2560 - 2565 กว่า 12,211 ล้านบาท โดยตลาดส่งออกสำคัญได้แก่ จีน 34.3 % ญี่ปุ่น 26.6 เวียดนาม 12.4% บังกลาเทศ 5.5% เกาหลีใต้ 4.2% และการคาดการณ์ตลาดสมุนไพรโลกในปี 2573 จะมูลค่าทะลุ 2.7 ล้านล้านบาท ทำให้ตลาดสมุนไพรไทยสามารถโตได้อีกมากมายหากสามารถสนับสนุนด้านมาตรฐานการผลิตแก่วิสาหกิจชุมชน หรือกลุ่มอาชีพ ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากได้